ประวัติย่อหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ

กำเนิด

“หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ” มีนามเดิมว่า ปั่น เสน่ห์เจริญ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๕๔ ตรงกับวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๖ ปีกุน (ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖) ณ ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง มีชื่อเล่นว่า ขาว แต่โยมมารดาเรียกว่า หมา โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายวัน และนางคล้าย เสน่ห์เจริญ (จุลบุษรา) มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด ๕ คน ท่านเป็นบุตคนที่ ๔

สู่เพศบรรพชิต

พ.ศ.๒๔๗๒ อายุ ๑๘ ปี ได้เข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดอุปนันทาราม ต.เขานิเวศน์ อ.เมือง จ.ระนอง เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๗๒ โดยมีพระรนังควินัยมุนีวงศ์ ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระครูพิพัฒน์สมาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์

พ.ศ.๒๔๗๔ อายุ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดนางลาด ต.เขาเจียก อ.เมือง จ.พัทลุง เมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๗๔ โดยมีพระครูจรูญกรณีย์ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระมหาพลัด วัดคูหาสวรรค์ จ.พัทลุง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูเคว็จ วัดคูหาสวรรค์ จ.พัทลุง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “ปทุมุตฺตโร” แปลว่า “ดอกบัวประเสริฐ หรือผู้ประเสริฐดุจดอกบัว”

จาริกไปอินเดีย

พ.ศ.๒๔๗๖ “พระโลกนาถ” พระภิกษุชาวอิตาเลียนผู้โด่งดัง มีแนวคิดจะเดินธุดงค์จากเมืองไทยผ่านพม่า อินเดีย และประเทศต่างๆ แถบยุโรปจนถึงประเทศอิตาลีบ้านเกิด เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา ประกาศชักชวนพระสงฆ์สามเณรไทยเข้าร่วมเดินธุดงค์ พระปั่นมีความสนใจจึงชักชวนพระสงฆ์สามเณรอีก ๘ รูป (พระบุญชวน เขมาภิรัต ร่วมเดินธุดงค์ไปด้วย สามเณรมีรูปเดียวคือ สามเณรกรุณา กุศลาสัย) จากจังหวัดนครศรีธรรมราชและพัทลุงไปสมทบ ท่านพุทธทาสก็ถูกพระโลกนาถชักชวนด้วย แต่ท่านปฏิเสธ มาบอกความในใจภายหลังว่า “ไม่เลื่อมใส เพราะพระฝรั่งรูปนี้ตั้งชื่อเหมือนพระพุทธเจ้า (นามโลกนาถ เป็นพระนามของพระพุทธเจ้า)” เรียกคณะธรรมทูตชุดนี้ว่า “พระภิกษุใจสิงห์”

ประกาศธรรมแก่ชาวเชียงใหม่

ในปี พ.ศ. ๒๔๙๒ หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ได้รับอาราธนานิมนต์โดย เจ้าชื่น สิโรรสให้ไปจำพรรษาที่วัดอุโมงค์ จ.เชียงใหม่ และได้เริ่มแสดงธรรมในทุกวันอาทิตย์และวันพระที่พุทธนิคม จ.เชียงใหม่ พร้อมกันนี้หลวงพ่อได้เขียนบทความต่างๆ ลงในหนังสือพิมพ์และเขียนหนังสือธรรมะขึ้นจำนวนหลายเล่ม นอกจากนี้ หลวงพ่อได้เดินทางไปประกาศธรรมแก่ชาวบ้าน ชาวเขาโดยใช้รถติดเครื่องขยายเสียง จนชื่อเสียงของหลวงพ่อดังกระฉ่อนไปทั่ว จ.เชียงใหม่ ในนาม “ภิกขุปัญญานันทะ” 

วัดชลประทานรังสฤษฏ์

ในปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ม.ล.ชูชาติ กำภู อธิบดีกรมชลประทาน ในสมัยนั้น ระหว่างที่ไปเยือนเชียงใหม่มีความประทับใจ ในลีลาการสอนธรรมะแนวใหม่ของหลวงพ่อ จึงเกิดความศรัทธาปสาทะในหลวงพ่อ และในขณะนั้นกรมชลประทานได้สร้างวัดใหม่ขึ้น ชื่อ “วัดชลประทานรังสฤษฎ์” ที่ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงได้อาราธนาหลวงพ่อไปเป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๓ จนถึงปัจจุบัน

หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ได้ดำเนินการเผยแพร่พระพุทธศาสนา โดยวิธีที่ท่านได้เริ่มปฏิวัติรูปแบบการเทศนาแบบดั้งเดิมที่นั่งเทศนาบนธรรมาสน์ถือใบลาน มาเป็นการยืนพูดปาฐกถาธรรมแบบพูดปากเปล่าต่อสาธารณชน พร้อมทั้งยกตัวอย่างเหตุผลร่วมสมัย ทันต่อเหตุการณ์ เป็นการดึงดูดประชาชนให้หันเข้าหาธรรมะได้เป็นเป็นอย่างมาก ซึ่งในช่วงแรกๆ ได้รับการต่อต้านอยู่บ้าง แต่ต่อมาภายหลังการปาฐกถาธรรมแบบนี้กลับเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปจนถึงบัดนี้ เมื่อพุทธศาสนิกชนทราบข่าวว่า หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุจะไปปาฐกถาธรรมที่ใดก็จะติดตามไปฟังกันเป็นจำนวนมาก จนในที่สุดหลวงพ่อได้รับอาราธนาให้เป็นองค์แสดงปาฐกถาธรรมในสถานที่ต่างๆ และเทศนาออกอากาศทั้งทางสถานีวิทยุกระจายเสียง และสถานีวิทยุโทรทัศน์ต่าง ๆ จวบจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต